แจกคู่มือ A/B Testing บนเว็บไซต์โรงแรม: ปรับยังไงให้ลูกค้ากดจองมากขึ้น

แจกคู่มือ A/B Testing บนเว็บไซต์โรงแรม: ปรับยังไงให้ลูกค้ากดจองมากขึ้น

เว็บไซต์โรงแรมก็เหมือนกับหน้าตาของธุรกิจที่ลูกค้าเห็นเป็นสิ่งแรก แต่คุณเคยสงสัยไหมว่าการจัดวางปุ่มจองห้องพักแบบนี้ดีที่สุดแล้ว
จริง ๆ หรือรูปภาพบนหน้าแรกแบบนี้จะดึงดูดลูกค้าได้มากกว่าภาพอื่น ๆ?

ความสงสัยเหล่านี้สามารถหาคำตอบได้ด้วยเครื่องมือที่เรียกว่า A/B Testing หรือ Split Testing ซึ่งเป็นวิธีที่โรงแรมและนักการตลาดดิจิทัลทั่วโลกใช้เพื่อปรับปรุงประสิทธิภาพของเว็บไซต์ให้ดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง

A/B Testing คืออะไร และคุณจะนำมันมาใช้กับเว็บไซต์โรงแรมเพื่อเพิ่มยอดจองได้อย่างไร 

เลือกอ่านตามหัวข้อ

1.

A/B Testing คืออะไร?

2.

3 ไอเดียทำ A/B Testing บนเว็บไซต์โรงแรมที่ให้ผลลัพธ์ดี

1.A/B Testing คืออะไร?

A/B Testing คือการทดสอบเปรียบเทียบหน้าเว็บไซต์ 2 เวอร์ชัน (เวอร์ชัน A และเวอร์ชัน B) โดยแสดงให้ผู้เข้าชมแต่ละกลุ่มเห็นคนละเวอร์ชัน เพื่อดูว่าเวอร์ชันไหนสร้างผลลัพธ์ที่ดีกว่ากัน

 

เวอร์ชัน A: คือหน้าเว็บไซต์ปัจจุบันที่คุณใช้อยู่

 

เวอร์ชัน B: คือหน้าเว็บไซต์ที่คุณปรับเปลี่ยนองค์ประกอบบางอย่างไป เช่น เปลี่ยนสีปุ่มจอง, เปลี่ยนข้อความ, หรือเปลี่ยนรูปภาพ

 

จากนั้นคุณจะวัดผลจากตัวชี้วัดที่ต้องการ เช่น อัตราการกดปุ่มจอง (Conversion Rate) หรือระยะเวลาที่ผู้เข้าชมใช้บนเว็บไซต์ เมื่อสิ้นสุดการทดสอบ คุณก็จะได้คำตอบที่ชัดเจนว่าเวอร์ชันไหนสร้างผลลัพธ์ได้ดีกว่ากัน

2. 3 ไอเดียทำ A/B Testing บนเว็บไซต์โรงแรมที่ให้ผลลัพธ์ดี

  1. ทดสอบปุ่ม Call-to-Action (CTA)

 

ปุ่ม “จองเลย” หรือ “Book Now” คือหัวใจสำคัญของเว็บไซต์โรงแรม หากปุ่มนี้ไม่ดึงดูดใจ ลูกค้าก็อาจจะลังเลและปิดหน้าเว็บไป

สีของปุ่ม: ลองเปลี่ยนสีปุ่มจองให้โดดเด่นสะดุดตามากขึ้น เช่น จากสีฟ้าเป็นสีส้มหรือสีเขียว

ข้อความบนปุ่ม: เปลี่ยนข้อความจาก “Book Now” เป็น “Check Availability” หรือ “Reserve Your Room” เพื่อดูว่าข้อความไหนสร้างความรู้สึกอยากคลิกมากกว่า

ตำแหน่งของปุ่ม: ลองย้ายตำแหน่งปุ่มจองไปไว้ในจุดที่เห็นได้ง่ายขึ้น เช่น บน Top Bar หรือบริเวณที่อยู่ใกล้กับรูปภาพห้องพัก

  1. ทดสอบรูปภาพและวิดีโอบนหน้าแรก

 

ภาพแรกที่ลูกค้าเห็นเมื่อเข้ามาในเว็บไซต์มีผลอย่างมากต่อความรู้สึกและความอยากจองของพวกเขา

รูปภาพ: ลองใช้รูปภาพที่แตกต่างกัน เช่น ภาพห้องพักที่หรูหรา, ภาพบรรยากาศโรงแรม, หรือภาพสระว่ายน้ำที่สวยงาม

วิดีโอ: ทดสอบว่าการใช้วิดีโอสั้น ๆ ที่แสดงบรรยากาศโดยรวมของโรงแรมจะสร้างการมีส่วนร่วมได้ดีกว่าการใช้ภาพนิ่งหรือไม่

ภาพสไลด์โชว์: ทดสอบจำนวนภาพสไลด์โชว์บนหน้าแรก ว่าการมีภาพน้อย ๆ ที่เน้นภาพสวย ๆ เพียงไม่กี่ภาพ จะดีกว่าการมีภาพจำนวนมากที่ต้องใช้เวลาเลื่อนดูหรือไม่

 

  1. ทดสอบการนำเสนอราคาและโปรโมชั่น

 

การนำเสนอราคาที่แตกต่างกันอาจส่งผลต่อการตัดสินใจของลูกค้าโดยตรง

ข้อความโปรโมชั่น: ลองเปลี่ยนข้อความจาก “ลด 15%” เป็น “ประหยัดสูงสุด 1,000 บาท” หรือ “อาหารเช้าฟรี” เพื่อดูว่าข้อความไหนดึงดูดลูกค้าได้มากกว่า

การแสดงราคา: ทดสอบการแสดงราคาที่รวมภาษีและค่าบริการไว้แล้วตั้งแต่แรก กับการแสดงราคาแบบยังไม่รวมภาษีในตอนต้น เพื่อดูว่าแบบไหนลูกค้าชอบมากกว่า

การเน้นข้อเสนอ: ทดสอบการใช้ป้ายกำกับ “Best Value” หรือ “Most Popular” เพื่อกระตุ้นให้ลูกค้าเลือกแพ็กเกจที่คุณต้องการ

การทำ A/B Testing บนเว็บไซต์โรงแรมเป็นกระบวนการที่ต้องทำอย่างต่อเนื่อง ไม่ใช่แค่ทำครั้งเดียวแล้วจบ แต่เป็นการเก็บข้อมูลและปรับปรุงเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพของเว็บไซต์อยู่เสมอ การทำสิ่งนี้อย่างสม่ำเสมอจะช่วยให้คุณเข้าใจลูกค้าได้ดีขึ้น และทำให้เว็บไซต์ของคุณกลายเป็นเครื่องมือที่ทรงพลังในการสร้างยอดจองตรงได้อย่างยั่งยืน


หากคุณกำลังมองหาเว็บไซต์โรงแรมที่รองรับการวัดผลดังกล่าว สามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ คลิกที่นี่

แชร์บทความ

บทความล่าสุด